简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทวิเคราะห์ราคาทองคำ XAUUSD ประจำวัน
สรุป ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยในระหว่างวันราคาทองคำได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ท่ามกลางแรงขายทำกำไร ดอลลาร์ และแรงขายดอลลาร์เพื่อปรับสถานะการลงทุน หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับเยน พร้อมแตะระดับสูงสุดในรอบ 37 ปีเมื่อเทียบ กับเงินปอนด์ส่วนดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ ปัจจัยดังกล่าวอยู่เบื้องหลังการทะยานขึ้นทองคำทดสอบระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. บริเวณ 1,729.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวกลงในเวลาต่อมา ส่วนหนึ่งทองคำได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของเจ้าหน้าที่เฟด อาทิ นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดที่กล่าวว่าเฟดควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวในขณะที่เศรษฐกิจสามารถ “รับมือได้” และกล่าวว่า เขาสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย “ครั้งใหญ่” ในการประชุมประจำเดือนก.ย. สอดคล้องกับนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ ที่กล่าวย้ำเรียกร้องให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 75 bps เช่นกัน ซึ่ง ถ้อยแถลงดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าเฟดมีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ สะท้อนจากFedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 57% ในสัปดาห์ก่อน
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสกัด ช่วงบวกราคาทองคำเอาไว้ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -1.15 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ราคาพยายามทดสอบแนวต้านที่ 1,729-1,734 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ (กรอบด้านบนของ Sideway Up )จึงมีแรงขายทำกำรไรสลับออกมา อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,703-1,697ดอลลาร์ต่อออนซ์ประเมินว่าเป็นการ อ่อนตัวลงระยะสั้นเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง และราคามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นทดสอบกรอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง
คำแนะนำ
เปิดสถานะซื้อ $1,703-1,697
จุดทำกำไร ขายเพื่อทำกำไร $1,729-1,734
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,676
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.investing.com/
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
EC Markets
FXTM
Saxo
FBS
Neex
Pepperstone
EC Markets
FXTM
Saxo
FBS
Neex
Pepperstone
EC Markets
FXTM
Saxo
FBS
Neex
Pepperstone
EC Markets
FXTM
Saxo
FBS
Neex
Pepperstone