简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:5 สัญญาณที่บอกว่าคุณพร้อมเป็น "เทรดเดอร์ Full Time" ในตลาด Forex
นี่คือ 5 สัญญาณที่บอกว่าคุณพร้อมเป็น “เทรดเดอร์ Full Time” ในตลาด Forex เชื่อว่าเทรดเดอร์ส่วนมากที่ก้าวเข้ามาก็คงหวังว่าวันนึง ตัวเองจะก้าวขึ้นไปอยู่ส่วนบนของพีระมิดในตลาด นั่นคือการได้เป็นเทรดเดอร์แบบเต็มเวลา (Full Time Trader) คิดดูสิ วันที่คุณใช้มือถือเครื่องเดียวหาเงินจากการเดินทางไปเที่ยวไหนก็ได้ เทรดเมื่อไหร่ก็ได้ มันจะแฮปปี้แค่ไหน แต่ไม่ใช่ว่าเป็นกันได้ง่าย ๆ นะ ไม่งั้นก็คงมี เทรดเดอร์ Full Time เต็มตลาดหมดแล้ว วันนี้เราจะพาไปเช็ค 5 สัญญาณที่บอกว่าตัวคุณน่ะ พร้อมจะเป็นเทรดเดอร์ Full Time แล้ว
1. เทรดได้กำไรต่อเนื่องมาซักระยะแล้ว : ไม่จำเป็นต้องได้กำไรในทุก ๆ การเทรด แต่เป็นความสามารถที่จะทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องในกรอบเวลาหนึ่ง เช่น 1 สัปดาห์ไม่ว่าจะขาดทุนกี่ครั้ง หรือกำไรกี่ครั้งจะรวม ๆ แล้วได้กำไรในจำนวนที่มีนัยสำคัญ เช่น 5-10% แล้วสามารถทำต่อเนื่องแบบนี้ได้หลาย ๆ สัปดาห์ ยิ่งทำได้ต่อเนื่อง ยิ่งแสดงถึงความเป็นมือ ที่สำคัญคือรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่ารายได้จากงานประจำ อย่างสม่ำเสมอ 3-4 เดือน คุณอาจพร้อมเป็นเทรดเดอร์ Full Time แล้ว
2. ต้องมีระบบเทรดที่พึ่งได้แน่นอนสักระบบหนึ่ง : อาจเป็นของตัวเอง หรือเรียนมาจากคนอื่นก็ได้ หรือเป็น EA ก็ได้ แต่จะต้องมีความรู้และทำซ้ำได้จริองๆ ทั้งนี้เพราะการเล่น Forex เต็มเวลาไม่ใช่การเทรดเล่น ๆ อีกแล้ว ไม่ได้รอจังหวะดี หรือพัฒนาเทคนิคเอาดาบหน้า ไม่มีหลักที่แน่นอน บางคนได้กำไรก็จริง แต่ได้จากความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ หรือความฟลุ๊ก แต่ไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน
3. เทรดโดยไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับการขึ้นหรือลงของกราฟ : เมื่อการเทรด forex ของคุณมีความชำนาญมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ คุณจะเริ่มมีการใช้อารมณ์ร่วมในการเทรดน้อยลง คุณจะเริ่มไม่ค่อยใส่ใจต่อรูปแบบการเทรดมากเท่าใดนัก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากประสบการณ์ในการเทรด forex ของคุณที่เพิ่มขึ้นและมีความชำนาญมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นถ้าคุณมาถึงจุดนี้ได้มันจะเริ่มเป็นสัญญาณที่ดีแล้ว
4. รู้จักการบริหารจัดการพอร์ตของคุณอย่างถูกต้อง : ขั้นตอนต่อมาคือ คุณมีความสามารถในการบริหารจัดการพอร์ตของคุณได้ดีมากขึ้น เรียนรู้ว่าเงินก้อนไหนที่จะนำไปใช้จ่าย เงินก้อนไหนที่คุณจะทำการเก็บไว้เพื่อการลงทุนต่อ เรื่องนี้แม้เรียนจากตำราเดียวกัน แต่ถ้าขาดการฝึกปฏิบัติอย่างจริงจังแล้ว ก็ยากที่จะทำได้เช่นกัน
5. เซียนจนสอนคนอื่นได้ : คุณเริ่มมีอาการเหมือนต้องการที่จะสอนคนอื่น หรืออยากให้คนอื่นเรียนรู้งานจากคุณมากขึ้น ถ้าความรู้สึกของคุณเป็นแบบนี้แสดงว่า พัฒนาการของการเทรด forex คุณเติบโตขึ้นอย่างมาก และจะสามารถช่วยคุณในการทำเงินได้อย่างมากแน่นอนในอนาคต
เทรดเดอร์ Part Time ทั้งหลายลองดูเลยว่าตัวเองมี 5 สัญญาณนี้หรือไม่ ถ้ามีแล้ว คุณก็อาจจะพร้อมเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาแล้ว ส่วนใครยังไม่พร้อมก็ต้องศึกษา และฝึกฝนกันต่อไปนะ จะมีวันของคุณแน่นอน WikiFX เอาใจช่วย! และหากชอบอ่านคอนเทนต์ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์ และข่าวสารในตลาด Forex พร้อมประสบการณ์ดี ๆ จากกูรูทั่วโลก ต้องดาวน์โหลดแอป WikiFX ไว้เลย โหลดฟรี มีให้อ่านทุกวัน! แต่ถ้าไม่รู้จะเทรด Forex กับโบรกเกอร์ไหนดี สามารถใช้แอป WikiFX ดูได้ เพราะเรามีจัดอันดับโบรกเกอร์ Forex ดีและไม่ดี อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบโบรกเกอร์ได้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย