简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:“ติดดอย” คำศัพท์ยอดฮิตที่เทรดเดอร์ Forex และนักลงทุนทุกวงการ
“ติดดอย” คำศัพท์ยอดฮิตที่เทรดเดอร์ Forex และนักลงทุนทุกวงการ ไม่อยากพบเจอ เพราะมันคือการที่เทรดเดอร์เข้าซื้อ Forex ในราคาที่แพง ๆ แล้วหลังจากนั้นราคาก็ตกลงมาเรื่อย ๆ ทำให้กราฟมีหน้าตาเหมือนภูเขาและเราก็เหมือนอยู่บนยอดเขา ทั้ง ๆ ที่ราคาก็มีการปรับตัวลงเรื่อย ๆ ความรู้สึกเหมือนขึ้นภูเขาไปบนดอย ทำให้มันหนาว ๆหน่อย ถ้าติดดอยในตลาด Forex เมื่อไหร่ ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อลงดอย !
1. ตั้งสติ ปรับความคิด : วิธีการแรกเป็นการลงจากยอดดอยที่ดีที่สุดคือการตั้งสติ อยู่กับเหตุผลปัจจุบันจริง ๆ หยุดมองโลกในแง่ดีก่อน ไม่ต้องคิดแล้วว่ากราฟมันจะกลับมาตำแหน่งเดิมมั้ย คือมันอาจจะยังไม่กลับจนกว่าคุณจะขายมันออกไป ดังนั้นถ้าไม่ต้องการให้เงินทุนของคุณหมดไปจนล้างพอร์ต ก็ให้ทำการ Cut loss ตอนนั้นเลย
2.ซื้อถัวเฉลี่ย : ลองใช้กลยุทธ์ซื้อถัว แต่คุณต้องแน่ใจว่าในบัญชีของตัวเองมีเงินสำรองเพียงพอต่อการซื้อถัว เพราะการซื้อถัวนั้นถ้าซื้อแบบขาดทุนอาจนำคุณไปสู่การล้างพอร์ตได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว ถัวเฉลี่ย คือเราจะเข้าซื้อโดยกำหนดเงื่อนไขในการซื้อ โดยใช้ระดับของราคาหรือกำหนดระยะเวลาที่จะเข้าซื้อ เช่น กำหนดว่า จะเข้า Buy ทุกวันจันทร์ ในสัปดาห์แรกของเดือน ซึ่งความถี่ของการตั้งระยะเวลาเข้าซื้อก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุนและการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน
3. ออกมาห่างตลาดมากขึ้น : เพื่อกุมสติและเพื่อดูจังหวะขาย การอยู่ใกล้ตลาดจนเกินไปทำให้เราเกิดอารมณ์มากเกินไป ทั้ง ความกลัว ความโลภ และ อาจรวมไปถึงการขาดสติ การมองดูกราฟบ่อย ๆ ทำให้เราคิดมาก มีอารมณ์ร่วมไปกับตลาดมากไป ดังนั้นหากเราเห็นกราฟผันผวนเยอะ ๆ ก็ถอยออกมาวางแผนดี ๆ ก่อนจะเริ่มทำอะไร ทีสิ้นคิด
การติดดอยเป็นเรื่องที่เทรดเดอร์คนไหนก็ต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ขึ้นดอยครั้งไหนแล้ว ก็ลองทำตาม 3 Step นี้ดูก่อน ลงดอยได้ไม่ได้ยังไงก็เก็บไว้เป็นประสบการณ์ พลาดตรงไหนก็จดไว้ เพื่อกลับมาครั้งหน้าแบบวิเคราะห์วางแผนให้ดีกว่าเดิม
ในโลก Forex ของเรายังมีอะไรมากมายที่คุณเรียนรู้อีกเยอะ หากคุณชอบเรียนรู้เรื่องราวสนุก ๆ และเกร็ดความรู้แบบนี้ WikiFX จะพร้อมที่จะคัดสรรค์มานำเสนอให้ได้อ่านกันทุกวัน คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
Saxo
Exness
Trive
ATFX
FXTM
EC Markets
Saxo
Exness
Trive
ATFX
FXTM
EC Markets
Saxo
Exness
Trive
ATFX
FXTM
EC Markets
Saxo
Exness
Trive
ATFX
FXTM
EC Markets