简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองคําวานนี้ปิดดิ่ง หลังเจอแรงกดดันจากเงินปอนด์อ่อนค่า
สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดดิ่ง 20.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ราคาแกว่งตัวผันผวนตั้งแต่ช่วงเช้าของตลาดเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินปอนด์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็น ประวัติการณ์ที่ 1.0327 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของรัฐบาลอังกฤษ หลังจากรัฐบาลเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ สถานการณ์ดังกล่าวหนุนดัชนี ติขสลาร์ให้พุ่งขึ้นทําสถิติสูงสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ที่ 114.58 จนกดดันราคาทองคํา แม้ระหว่างวัน ราคาทองคําจะฟื้นตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,649.47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ก็ถูกแรง ขายกดดันให้ร่วงลงอีกครั้ง ประกอบกับดัชนีดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุด นับตั้งแต่เม.ย. 2010 ที่ 3.99% ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวเพื่อคุมเงินเฟ้อ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวถูกตอกย้ําด้วยถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของเจ้าหน้าที่เฟด อาทิ นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ที่กล่าววานนี้ว่า ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ “สูงในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้ ทําให้เฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยและคง นโยบายเข้มงวดไว้สักระยะหนึ่ง และหากเกิดข้อผิดพลาดจะเป็นการ ”ดีกว่า ถ้าเฟตทํามากเกินไป(do too much) เมื่อเทียบกับการที่เฟดทําน้อยเกินไป(do too litle) ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ ทองคําปรับตัวลงทดสอบระดับต่ําสุดในรอบ 2 ปีครึ่งครั้งใหม่ที่ 1,620.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําลดลง -3.75 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้า คงทน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB, ยอดขายบ้านใหม่และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ รวมไปถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด
ราคาพยายามทรงตัวหลังจากช่วงก่อนหน้าอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ สามารถเหนือแนวต้านระดับ 1,649 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ระดับสูงสุดของวันก่อนหน้า)ราคามีโอกาส อ่อนตัวลงช่วงสั้น ทั้งนี้ หากสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แสดงให้ เห็นว่าแรงซื้อเข้ามาพยุง และราคามีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง แต่หากยืนเหนือแนวรับแรกไม่ได้ ราคามี โอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับถัดไปโซน 1,602 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนําเปิดสถานะขาย $1,649-1,668
จุดทํากําไรซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,620-1,602
ตัดขาดทุนตัดขาดทุนสกานะขายหากผ่าน $1,668
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน