简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดทะยานขึ้นอีก 25.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่ปิดร่วงลง 1.31% ในวันอังคารซึ่งเป็นการลดลงภายในวันเดียวที่มากที่สุด นับตั้งแต่ COMID-19 เริ่มระบาดในเดือนมี.ค. 2020 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหลังการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัด อุปสงค์ในตลาดแรงงาน สติลงสู่ระดับ 10.1 ล้านตําแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ําสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2021 และต่ํากว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 11.1 ล้านตําแหน่ง สะท้อนจาก FedWatch Tool ที่บ่งชี้ว่า นักลงทุนมองเห็นโอกาสต่ํากว่า 60% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps สู่ระดับ 3.75-4.003% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งลดลงจากโอกาสเกือบ 70% และเพิ่มโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps สู่ระดับ 40% นอกจากนี้ราคาทองคํายังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 3.5618% เมื่อคืนนี้ โดยปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันอังคาร หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 25 bps ซึ่ง “น้อยกว่า” การคาดการณ์ไว้ของตลาดส่วน ใหญ่ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 50 bps นอกจากนี้ การคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยได้กดดันบอนด์ยีลด์เพิ่ม สถานการณ์ดังกล่าวหนุนทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนใน รูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม ทำให้ทองคําพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ครั้งใหม่ 1,729. 14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่ม +1.74 ต้น สำหรับวันนี้ติดตาม การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย. จาก ADP, ดุลการค้า, ดัชนี PMI ภาคการบริการจากมาร์กิตและ เSM
หลังจากราคาทองค าปรับตัวขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่งมีแรงขายท าก าไรระยะสั้นเพิ่มขึ้น ราคาอาจอ่อน ตัวลงทดสอบแนวรับโซน 1,703-1,688 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้จึงเกิดแรงซื้อพยุงราคา ไว้อย่างไรก็ตาม หากการปรับตัวขึ้นราคาไม่ผ่านประเมินแนวต้านสำคัญโซน 1,735 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์(ระดับสูงสุดของเดือน ก.ย.) ประเมินว่าเป็นการแกว่งตัวในกรอบเดิม
คําแนะนําเปิดสถานะซื้อ$1,703 - 1,688
จุดทำกําไรขายเพื่อทํากําไร $1,735
ตัดขาดทุนตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,688
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
Neex
EC Markets
Saxo
STARTRADER
IC Markets Global
FXTM
Neex
EC Markets
Saxo
STARTRADER
IC Markets Global
FXTM
Neex
EC Markets
Saxo
STARTRADER
IC Markets Global
FXTM
Neex
EC Markets
Saxo
STARTRADER
IC Markets Global
FXTM