简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ทองคำปิดปรับตัวเพิ่ม ได้แรงหนุนต่อเนื่องจากวันอังคาร
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางแรงหนุนต่อเนื่องมาจากวันอังคาร ทั้งนี้ ราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อ จนกระทั่ง แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน โดยดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มจะ “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สะท้อนจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า มีโอกาสเพียง 49.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ลดลงจากเดิมที่เคยให้น้ำหนักมากถึง 75% นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากยูโรดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75bps ในการประชุมนโยบายการเงินที่กําลังจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นต่อแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. หลังมีรายงานว่า รัฐบาลของนายริชี ชูนัด ได้เลื่อนการประกาศ แผนการใช้จ่ายของรัฐบาล และการจัดเก็บภาษีออกไปเป็นกลางเดือนพ.ย. ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่า 4,00% เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 1 สัปดาห์ หลังนักลงทุนสติศาตการณ์เกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนเป็นปัจจัยหนุนทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม ปัจจัยที่กล่าวมา ช่วยหนุนให้ทองคําพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,674.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งแรก จีดีพีไตรมาส 3/2022, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และผลการประชุม ECB
หากการอ่อนตัวลงของราคาทองคำไม่มากและยังสามารถรักษาระดับเหนือแนวรับ 1,657 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ราคาทองคำยังมีลุ้นดีดขึ้น ทดสอบแนวต้าน 1,684-1,699 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่องทำให้เกิดแรงซื้อทำกำไร สลับเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ประเมินแนวรับสำคัญโซน 1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ระดับต่ำสุดของสัปดาห์นี้)
คำแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,659-1,638
จุดทำกำไร ขายเพื่อทำกำไร $1,684
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,638
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
FXTM
AvaTrade
ATFX
XM
FBS
Markets.com
FXTM
AvaTrade
ATFX
XM
FBS
Markets.com
FXTM
AvaTrade
ATFX
XM
FBS
Markets.com
FXTM
AvaTrade
ATFX
XM
FBS
Markets.com