简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:จากภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street สู่บทเรียนชีวิตจริงของโลกการเงิน — เรื่องราวของ Jordan Belfort ไม่ได้สะท้อนแค่ศิลปะการขาย แต่ยังเปิดโปงด้านมืดของ “ความอยาก” ที่ขับเคลื่อนโลกการเงิน การใช้วาทะปลุกพลังในทีมขาย, การเปลี่ยน “ความโลภ” ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างอาณาจักร และบทสรุปของชายผู้เปลี่ยนจากนักล่าสู่เหยื่อของตัวเอง บทความนี้ถอดรหัสแรงขับเบื้องหลังตลาดทุน ที่ยังคงเดือดไม่เปลี่ยนแปลง แม้ยุคสมัยจะหมุนไป
“ขายปากกานี้ให้ฉันสิ” ประโยคสั้น ๆ จากภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street ไม่ได้แค่ชี้ให้เห็นถึงศิลปะแห่งการขายเท่านั้น แต่มันสะท้อนกฎพื้นฐานของโลกนี้ — Demand & Supply — ได้อย่างคมกริบ
ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย Leonardo DiCaprio ในบท Jordan Belfort ถ่ายทอดชีวิตของเด็กหนุ่มธรรมดาผู้ทะเยอทะยานที่ใช้ “วาทะ” สร้างอาณาจักรเงินล้านจากการขายหุ้นปลอมให้กับคนที่มี “ความอยาก” ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในใจ
เงินไม่ใช่แค่สิ่งที่จับต้องได้ แต่มันคือสารเสพติด
ตลอดทั้งเรื่อง เราเห็น Jordan และทีมใช้ชีวิตอย่างสุดขั้ว ยาเสพติด, ปาร์ตี้, เซ็กซ์, ความรวย—ทุกอย่างเกิดจากเงิน และเงินก็เป็นสิ่งที่พวกเขา “เสพ” หนักที่สุด จนถึงขั้นยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องมัน แม้จะต้องโกหก หลอกลวง หรือทำผิดกฎหมายก็ตาม
Jordan เคยพูดกับลูกทีมว่า
“เงินอยู่ในมือเราย่อมมีค่ามากกว่าถูกปล่อยให้พวกคนอื่นถือ”
คำพูดที่หล่อเลี้ยงความโลภให้ดูมีเกียรติ เป็นเชื้อเพลิงที่ผลักทีมขายของเขาให้กลายเป็น “นักล่า” ผู้ไร้ซึ่งความลังเล
จากเด็กหนุ่มสู่นายใหญ่ และจากนักล่า…สู่เหยื่อของตัวเอง
Jordan เริ่มต้นจากศูนย์ มีภรรยาคนแรกที่อยู่เคียงข้างมาตลอด เขารู้จัก Wall Street จากการเป็นเพียงพนักงานเงินเดือน แต่เมื่อเขา “ล่าฝัน” ได้สำเร็จ เขาก็หลงระเริงไปกับอำนาจและเงินตรา จนกระทั่งสูญเสียทุกอย่าง ทั้งครอบครัว ชื่อเสียง และอิสรภาพ
สิ่งที่น่าสนใจคือ…ภรรยาคนแรกของเขานั่นเองที่เป็น “แรงผลัก” ให้ Jordan เปลี่ยนเป้าหมายจากปลาตัวเล็ก สู่ “วาฬ” ผู้ร่ำรวย — และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการสร้าง “กองทัพนักล่า” ที่พร้อมทำเงินมหาศาล
วาทะไม่พอ ต้องมีระบบและความเชื่อมั่น
Jordan ไม่ได้แค่สอนทีมให้พูดขายของ แต่เขาสอนการแต่งตัว, การควบคุมจังหวะการพูด, เทคนิคปลุก “ความอยาก” ของลูกค้า และที่สำคัญ เขา “เชื่อมั่น” ในลูกทีม ถึงขั้นออกเช็คล่วงหน้าให้พนักงานใหม่
เพราะเขาเข้าใจว่า การซื้อใจที่ดีที่สุดคือการ “เชื่อก่อน…แล้วค่อยพิสูจน์ทีหลัง”
บทเรียนสุดท้ายจาก Wall Street
แม้ชีวิตของ Jordan จะจบไม่สวย แต่บทเรียนที่ทิ้งไว้ชัดเจนยิ่งกว่าความบ้าคลั่งของเรื่องคือ
“ทุกตลาด...คือสนามรบ”
ไม่มีมิตรแท้ ไม่มีคำว่าพอ ทุกความอยากสามารถถูกใช้เป็นอาวุธ ทุกความประมาทสามารถทำให้ตกเป็นเหยื่อได้ในพริบตา
Wall Street ไม่เคยเปลี่ยน—มันเพียงแต่เปิดรับ “นักล่าหน้าใหม่” เสมอ และตราบใดที่ “ความอยาก” ยังมีอยู่…สนามรบนี้ก็จะไม่มีวันสิ้นสุด
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
IB
FXTM
Neex
EC Markets
STARTRADER
Markets.com
IB
FXTM
Neex
EC Markets
STARTRADER
Markets.com
IB
FXTM
Neex
EC Markets
STARTRADER
Markets.com
IB
FXTM
Neex
EC Markets
STARTRADER
Markets.com