简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้
วันพุธที่ 20 ก.ย. 2023
•13.00 น. : GBP ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI y/y)
ตัวเลขครั้งก่อน 6.8% ตัวเลขคาดการณ์ 7.1%
วันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ย. 2023
•01.00 น. : อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Funds Rate)
ตัวเลขครั้งก่อน 5.50% ตัวเลขคาดการณ์ 5.50%
•19.30 น. : จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ (Unemployment Claims)
ตัวเลขครั้งก่อน 220K ตัวเลขคาดการณ์ 222K
•19.30 น. :ดัชนีการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (Philly Fed Manufacturing Index)
ตัวเลขครั้งก่อน 12.0 ตัวเลขคาดการณ์ -0.4
วันศุกร์ที่ 22 ก.ย. 2023
• 20.45 น. : ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐฯ (Flash Manufacturing PMI)
ตัวเลขครั้งก่อน 47.9 ตัวเลขคาดการณ์ 47.9
• 20.45 น. : ดัชนี PMI ภาคการบริการสหรัฐฯ (Flash Services PMI)
ตัวเลขครั้งก่อน 50.5 ตัวเลขคาดการณ์ 50.8
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดูดีกว่าฝั่งยุโรป และความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน หลัง ECB เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง +25bps
เงินดอลลาร์อาจย่อตัวลงบ้าง หาก Dot Plot ใหม่ชี้ว่า เฟดได้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ทั้งนี้ เงินดอลลาร์อาจมีแรงหนุนอยู่ หากตลาดยังคงกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรป จากการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของ BOE และ ECB ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ในช่วงทยอยรับรู้ผลการประชุม BOJ ที่อาจส่งผลต่อเงินดอลลาร์ได้ ในส่วนของค่าเงินบาท มีโอกาสลุ้นทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หากตลาดกลับมาเชื่อว่าเฟดได้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว อนึ่ง ปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ายังคงอยู่ โดยเฉพาะฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่ยังคงผันผวนและไม่แน่นอน อีกทั้ง หากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องก็อาจยังเป็นปัจจัยกดดันเงินบาท จากความกังวลแนวโน้มดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด
1. ฝั่งสหรัฐฯ – เราประเมินว่า ในการประชุม FOMC ของเฟดในสัปดาห์นี้ เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% อย่างไรก็ดี ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ การปรับคาดการณ์เศรษฐกิจ และคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) โดยเรามองว่า แนวโน้มการชะลอตัวลงต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจทำให้เฟดปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE ลงบ้างในปีนี้และปีหน้า ขณะเดียวกัน รายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่ยังคงสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าคาด อาจทำให้เฟดไม่ได้ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เราประเมินว่า ในส่วนของ Dot Plot ใหม่ อาจสะท้อนว่า เฟดได้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ตามแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เราไม่ปิดโอกาสที่ Dot Plot ใหม่จะยังคงชี้ว่า เฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะไม่ต่างจาก Dot Plot ก่อนหน้า เนื่องจากการประท้วงของ UAW หากประสบความสำเร็จก็อาจยิ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอลงช้า ตามการปรับเพิ่มขึ้นค่าแรง โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาพลังงานก็มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ดี เรามองว่า หาก Dot Plot ใหม่ ไม่ได้ชี้ว่า เฟดพร้อมขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้ง ในปีนี้ และลดดอกเบี้ยลง -1% ตามที่ประเมินไว้ใน Dot Plot ครั้งก่อน เงินดอลลาร์ก็อาจไม่ได้แข็งค่าขึ้นมากนักหรืออาจทรงตัว sideway และนอกจากผลการประชุม FOMC ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการ (S&P Manufacturing & Services PMIs) เดือนกันยายน ที่อาจยังคงสะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ไม่ได้ชะลอตัวลงหนักมาก
2. ฝั่งยุโรป – ตลาดประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษในเดือนสิงหาคม อาจเร่งขึ้นสู่ระดับ 7.0% ตามการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงาน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ที่ไม่รวมผลของราคาอาหารและพลังงาน อาจชะลอลงเล็กน้อยสู่ระดับ 6.8% ซึ่งภาพดังกล่าว กอปรกับการเติบโตของค่าจ้าง (Wage growth) ที่รายงานในสัปดาห์ก่อน ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า +8.5%y/y ทำให้ เราประเมินว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย +25bps สู่ระดับ 5.50% อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดได้ประเมินว่า BOE อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อในการประชุมครั้งนี้ (โอกาสราว 80%) ทำให้ประเด็นสำคัญจะอยู่ที่ การส่งสัญญาณของ BOE ว่าพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือไม่ และ BOE มีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจอย่างไร หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงนี้ยังคงไม่สดใส โดยเฉพาะในฝั่งการจ้างงาน อีกทั้ง รายงานข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ เดือนกันยายน ก็อาจยิ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษ (รวมถึงยูโรโซน) มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น
3. ฝั่งเอเชีย – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยเราคาดว่า BOJ อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.10% และยังคงใช้นโยบาย Flexible Yield Curve Control อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าต่อเนื่องของเงินเยนญี่ปุ่นกอปรกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง (ตลาดคาดอัตราเงินเฟ้อ CPI ญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม อาจอยู่ที่ระดับ 3.0% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ Core-Core CPI ที่ไม่รวมผลของราคาอาหารและพลังงาน จะยังคงสูงกว่า 4.3%) อีกทั้งการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อของเฟดก็ยังมีความไม่แน่นอน อาจทำให้ผู้ว่าฯ BOJ ส่งสัญญาณในลักษณะที่มีความ hawkish มากขึ้น เพื่อลดแรงกดดันต่อเงินเยนญี่ปุ่นซึ่งจะช่วยชะลอการปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อได้บ้าง
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
การพักผ่อนคือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักเทรด แม้ว่าเราจะสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่การพักผ่อนจะช่วยฟื้นฟูสมาธิ ลดความเครียดและความวิตกกังวล ส่งผลให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยรักษาความมั่นคงทางอารมณ์ เคล็ดลับ: - นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงทุกคืน - หยุดพักเมื่อรู้สึกเครียดหรือเหนื่อย - หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่คุณไม่มีสมาธิ การพักผ่อนทำให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ดังนั้นอย่ามองข้ามความสำคัญของการพักผ่อนในชีวิตประจำวันครับ!
ทฤษฎี "Greater Fool" หรือ “ทฤษฎีคนโง่ที่ใหญ่กว่า” อธิบายพฤติกรรมการลงทุนที่มุ่งหวังเพียงการขายต่อให้ผู้ที่ยอมจ่ายแพงกว่า โดยไม่สนใจมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ ซึ่งแม้จะดูเหมือนทำกำไรได้ในระยะสั้น แต่สุดท้ายอาจทำให้นักลงทุนกลายเป็น "คนโง่คนสุดท้าย" ที่ต้องรับภาระขาดทุน ทฤษฎีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนตามกระแส และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของสติ การวิเคราะห์ และการรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองในการลงทุนอย่างยั่งยืน.
บทความนี้นำเสนอคำแนะนำสำหรับนักเทรด Forex ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนและสภาพคล่องลดลง ส่งผลให้การเทรดมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น แอดเหยี่ยวแนะนำสัญญาณเตือน 3 ประการที่นักเทรดควรระมัดระวัง ได้แก่ ความผันผวนที่อาจสูงหรือต่ำเกินไป ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่อาจกระทบตลาด และความเสี่ยงจากการเทรดเกินตัว (Overtrading) พร้อมทั้งแนะนำวิธีการจัดการความเสี่ยง เช่น การลดขนาดการลงทุน การตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit ให้ชัดเจน และการหยุดพักเมื่อรู้สึกเครียด เพื่อให้การเทรดในช่วงสงกรานต์เป็นไปอย่างปลอดภัยและประสบความสำเร็จ.
บทความนี้กล่าวถึงทางเลือกระหว่าง "เทรด" หรือ "เที่ยว" ของนักเทรดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งแม้ตลาด Forex จะไม่หยุดตามวันหยุดไทย แต่การตัดสินใจว่าจะใช้ช่วงเวลานี้ในการเทรดต่อหรือพักผ่อนก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความพร้อมของแต่ละคน โดยแบ่งออกเป็นสองแนวทางหลักคือ การเทรดต่อเนื่องเพื่อจับโอกาสในตลาดที่เงียบ และการพักเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจและวางแผนระยะยาว บทความเน้นว่าทั้งสองทางเลือกต่างมีข้อดีและข้อควรระวัง พร้อมชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จของนักเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการอยู่หน้าจอตลอดเวลา แต่คือการรู้เท่าทันตัวเองและเลือกทำสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมายในช่วงเวลานั้นอย่างแท้จริง
EC Markets
FOREX.com
IC Markets Global
FBS
Trive
Saxo
EC Markets
FOREX.com
IC Markets Global
FBS
Trive
Saxo
EC Markets
FOREX.com
IC Markets Global
FBS
Trive
Saxo
EC Markets
FOREX.com
IC Markets Global
FBS
Trive
Saxo