简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:แม้ทรัมป์เคยลั่นว่าจะดันสหรัฐฯ เป็นประเทศมิตรกับคริปโทที่สุดในโลก แต่หลังรับตำแหน่งจริงกลับไร้นโยบายชัดเจน ขณะเดียวกัน พอร์ตคริปโทรัฐบาลสหรัฐฯ หายไปร่วม 26% ใน 3 เดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง แถมนโยบาย "ภาษีวันปลดปล่อย" ยังซัดตลาดคริปโทร่วงยับกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์!
แม้ระหว่างการหาเสียง โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) จะประกาศจุดยืนชัดเจนว่า หากได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง เขาจะผลักดันให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่เป็นมิตรกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่สุดในโลก แต่หลังจากเข้ารับตำแหน่งจริง กลับยังไม่ปรากฏนโยบายใดที่เป็นรูปธรรมในทางบวกต่อตลาดคริปโท
หลังชัยชนะของทรัมป์ ตลาดคริปโทพุ่งแรงด้วยความคาดหวังว่า รัฐบาลจะเดินหน้าจัดตั้ง “กองทุนสำรองคริปโทแห่งชาติ” และเริ่มสะสมเหรียญดิจิทัล แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม—ไม่เพียงรัฐบาลยังไม่ซื้อเหรียญเพิ่ม พอร์ตคริปโทที่มีอยู่ก็ลดลงไปอย่างมาก
พอร์ตคริปโทรัฐบาลร่วงกว่า 26% ในเวลาไม่ถึง 3 เดือน
ข้อมูลจาก Arkham Intelligence ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม (วันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์) รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ถือครองสินทรัพย์คริปโทรวมมูลค่าประมาณ 21,150 ล้านดอลลาร์ แต่ภายในวันที่ 7 เมษายน มูลค่าพอร์ตลดลงเหลือเพียง 15,450 ล้านดอลลาร์ หรือลดลงถึง 26.67%
สินทรัพย์หลักของรัฐบาลคือ Bitcoin ที่ได้จากการยึดทรัพย์ในคดีต่าง ๆ โดย BTC ที่รัฐบาลถืออยู่ลดมูลค่าจาก 20,640 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 15,120 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกัน
แม้ทรัมป์ยังไม่ได้ดำเนินนโยบายซื้อคริปโทเพิ่มเติมตามที่เคยให้คำมั่นไว้ แต่เขาก็ยังรักษาสัญญาว่าจะ ไม่ขาย คริปโทที่รัฐบาลถืออยู่
มูลค่าคริปโตที่สหรัฐฯ ถือครองในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (กราฟจาก Arkham)
ตลาดคริปโทร่วงหนัก หลังนโยบาย “ภาษีวันปลดปล่อย” ประกาศใช้
ราคาคริปโทที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากการประกาศใช้นโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในวัน “Liberation Day” ของทรัมป์ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดทั่วโลก รวมถึงตลาดคริปโท ที่สูญเสียมูลค่ารวมไปกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ภายในหนึ่งสัปดาห์
Bitcoin ซึ่งเป็นเหรียญที่รัฐบาลถือไว้มากที่สุด ราคาก็ร่วงลงจาก 101,762 ดอลลาร์ ในวันแรกของรัฐบาลทรัมป์ เหลือเพียง 76,365 ดอลลาร์ ในช่วงต่ำสุด นับเป็นการลดลงกว่า 24.96% ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง โดยล่าสุด (ตามรายงาน) ราคา BTC กลับมาอยู่ที่ 80,268 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.86% ภายใน 24 ชั่วโมง ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
ขอบคุณข้อมูลจาก siamblockchain และ finbold
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
บทความนี้อธิบาย “ทฤษฎีแมลงสาบ” ในโลกคริปโต โดยเปรียบคริปโตเคอเรนซีกับแมลงสาบที่อยู่รอดได้แม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ด้วยคุณสมบัติอย่างการกระจายศูนย์ ต้านการเซ็นเซอร์ และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว บทสรุปคือ คริปโตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่อยู่รอดและพัฒนาได้ก็เพียงพอ.
จากฮีโร่สู่ผู้ต้องหา! “โด ควอน” อดีตผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Terra ที่เคยสร้างเหรียญพันล้านอย่าง LUNA และ UST พังไม่เป็นท่าในปี 2022 จนกลายเป็นวิกฤตโลกคริปโต ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของ “ระบบล้ม” ระดับโลก แถมยังเคยเปิดเหรียญ THT ชนแบงก์ชาติไทยอีกด้วย บทเรียนราคาแพงของความมั่นใจที่เกินพอดี